Sunday, December 14, 2014

Trekking Trip in Chiang Mai

"เดินป่า"

ใครมีโอกาสได้ขึ้นดอยอินทนนท์
อย่าลืมแวะไปสัมผัสธรรมชาติที่กิ่วแม่ปานกันนะคะ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร
ภารกิจนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งค่ะ อิอิ
เดินแบบเรื่อยๆชิวๆ เหนื่อยก็พัก
บริเวณทางเข้าจะมีโต๊ะให้ติดต่อคนนำทาง
และมีสมุดบันทึกเวลาเข้า-ออก รวมทั้งจำนวนผู้เดินทางค่ะ

มาดูแผนที่การเดินทางกันก่อน
กิโลเมตรแรก คือ จุดที่ 1-8 เดินในป่า ไม่เหนื่อยค่ะ แค่หายใจไม่ทันเอ๊งงงง
ถัดมา 9-13 เป็นการเดินกลางแจ้ง แต่โชคดีที่อากาศบนดอยเย็นสบาย
ช่วงสุดท้ายเป็นการเดินป่า ขึ้นๆลงๆ เดินกันเมื่อยน่องเลย


ช่วงแรกๆ เดินๆหยุดๆ ทำทีเป็นถ่ายภาพ
จริงๆหายใจไม่ทัน ยังปรับตัวไม่ได้ 555
ก็คุณเพื่อนเล่นไม่บอกล่วงหน้า ไม่ได้ฟิตร่างกายมา


เฟิร์นกระทบกับแสงแดดสวยดีค่ะ


เพื่อนมันคงสงสัย
ต้นไม้แตกยอดใหม่ก็ยังจะถ่าย
เรื่องของเรื่อง คือ ตรูเหนื่อยเฟ้ย พักแป๊บ


ระหว่างทางที่เดินอยู่ก็มีคนเดินสวนกลับมา
น้องคนนำทางบอกว่า 
ถ้าใครเดินไม่ไหว พอไปถึงจุดที่ 9 ก็ให้ย้อนกลับเส้นทางเดิม
แต่ถ้าพ้นไปแล้ว ก็ต้องกัดฟันเดินหน้าอย่างเดียว


หลุดจากป่าออกมา ก็จะมาพบกับลานหญ้ากว้างๆ


จะเห็นเฟิร์นหน้าตาประหลาดคล้ายๆผักกูดที่เอามาผัดกินกัน
ชื่อของเขาคือ กูดเกี๊ยะ เฟิร์นทนไฟ
กูดเหมือนกัน แต่ทานไม่ได้นะ


ยอดอ่อนมีสีทองเหมือนเปลวไฟ 


และแล้วก็เข้าใจว่า ทำไมถึงย้อนกลับไม่ได้
เส้นทางมันแคบนิเอง 


ในแต่ละจุดบนแผนที่ จะมีคำบรรยายทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
ให้นักท่องเที่ยวได้อ่าน งานนี้เลยสบายไม่ต้องสปีคอิงลิชให้เพื่อนชาวสิงคโปร์ฟัง


ซากต้นกุหลาบพันปี ที่ถูกสะเก็ดไฟจากการเผาป่า


กุหลาบพันปี แต่เดิมชื่อ คำแดง
ต่อมาเปลี่ยนเป็น กุหลาบพันปลี เพราะตอนตูมๆอยู่คล้ายปลีกล้วย
แต่เนื่องจากระยะเวลาที่กว่าจะบาน สุดท้ายจึงได้ชื่อว่า
กุหลาบพันปี


ดอกตูมคล้ายปลีกล้วยจริงๆด้วย
น้องคนนำทางยังบอกอีกว่า
เจ้ากุหลาบพันปี จะออกดอกปีเว้นปี


สวยจริงๆ แต่เสียดายต้นใกล้ๆไม่มีต้นไหนออกดอกบานเลย


ดอกอะไรไม่รู้ สวยดี ก้มลงไปเห็นพอดี


กลับเข้ามาเดินในป่าอีกครั้ง
การถ่ายภาพในป่า แสงค่อนข้างน้อย
ก็จะเลือกเก็บภาพตรงบริเวณที่มีแสงแดดส่องลงมา


ต้นไม้ใหญ่ มีโฮย่าเลื้อยเกาะเต็มไปหมด


ลองซูมดูเผื่อจะเห็นช่อดอก สงสัยจะไม่ใช่ฤดูของเค้า


แสงแดดกระทบใบไม้ ดูแล้วเขียวสดชื่นดี


เงยหน้าขึ้นไป เห็นใบไม้หลากสี อดใจไม่ไหว แชะสักภาพ


ก่อนจะออกจากป่า เหลือบไปเห็นเจ้าเห็ดสีสันสะดุดตา
เผลอทานเข้าไป คงได้หามไปโรงพยาบาลกันแน่ 


ปิดท้ายทริปนี้กันที่ วัดต้นเกว๋น
ขอแนะนำให้ไปค่ะ เป็นวัดที่สะอาดมาก


ถ้าจะไปถ่ายภาพ แนะนำให้ไปช่วงเช้า 


แสงยามเย็นค่ะ ต้นมะเกว๋น 


ใต้ต้นมะเกว๋น จะมีคำบรรยายค่ะ สบายเราอีกล่ะ อิอิ


ถ่ายจากใต้ต้นมะเกว๋น


ภายในบริเวณวัดค่ะ


อยากได้มุมแบบนี้สักมุมในสวน


มุมต้นมะเกว๋น สูงใหญ่ อลังการณ์
 

ภายในบริเวณวัดบางส่วนก็ได้มีการบูรณะ


หลังคาแบบโบราณ


นาคาเฝ้าประตู


ตัวเหราแอบงับหางนาคา อิอิ


กระดิ่ง กรุ๊ง กริ๊ง


ลายแกะสลักบริเวณอุโบสถ


มองหน้าเค้าทำไม แฮร่


ทริปเชียงใหม่ครั้งนี้ สนุกจริงๆค่ะ
ปีหน้าจะไปลุยดอยไหนอีกดีนะ ขอฟิตร่างกายก่อน
แล้วพบกันใหม่ค่ะ

No comments:

Post a Comment